ก่อนอื่นเลยเราต้องมารู้จักก่อนว่า Social Network คือออะไร
โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ Social Network คือเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือการที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง เชื่อมโยงกับเพื่อนอีกนับสิบ รวมไปถึงเพื่อนของเพื่อนอีกนับร้อย ผ่านผู้ให้บริการด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) บนอินเตอร์เน็ต เช่น Facebook, Blogger, Hi5, Twitter หรือ Tagged เป็นต้น (บางเว็บไซต์ที่กล่าวถึงในตัวอย่าง ปัจจุบันนี้ได้เสื่อมความนิยมแล้ว) การเชื่อมโยงดังกล่าว ทำให้เกิดเครือข่ายขึ้น เช่น เราสามารถรู้จักเพื่อนของเพื่อนเราได้ เป็นทอดๆ ต่อไปเรื่อย ทำให้เกิดสังคมเสมือนจริงขึ้นมา สามารถสร้างคอนเน็คชั่นใหม่ๆ ได้ง่าย และเมื่อเราแชร์ (Share) ข้อความหรืออะไรก็ตามลงไปในเครือข่าย ทุกคนในเครือข่ายก็สามารถรับรู้ได้พร้อมกัน และสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เราแชร์ได้ เช่น แสดงความคิดเห็น (Comment) กดไลค์ (Like) ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละผู้ให้บริการ ความโดดเด่นในเรื่องความง่ายของโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) ทำให้ธุรกิจ และนักการตลาดสนใจที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการ
โซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) ตามรูปแบบ แบ่งได้เป็น
1. Blog หรือ บล็อก คือเว็บไซต์รูปแบบหนึ่ง มาจากคำว่า Weblog (Website + Log) ซึ่งคำว่า Log ในที่นี้หมายถึง “ปูม” ดังนั้น Blog จึงมีลักษณะเป็นเว็บไซต์ที่จัดเก็บข้อมูลด้วยวิธีเดียวกับปูม มีการเรียงลำดับตามวันที่บันทึก ข้อมูลใหม่ที่ Post จะอยู่บนสุด ส่วนข้อมูลเก่าจะอยู่ล่างสุด โดยบล็อกสมัยนี้ไม่ได้อยู่ลำพังเดี่ยวๆ แต่มีลักษณะเป็น Community ที่รวบรวม Blog หลายๆ Blog เข้าไว้ด้วยกัน สามารถเชื่อมโยงผู้เขียน (Blogger) ได้เป็นสังคมขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงผู้อ่านไว้กับผู้เขียนได้ โดยสามารถคอมเม้นต์บทความ ติดตาม หรือกดโหวตได้ เช่น Blogger เป็นต้น
2. ไมโครบล็อก (Microblog) เป็นเว็บไซต์ขนาดเล็ก ใช้สำหรับส่งข้อความสั้นๆ ไม่กี่ประโยค เพื่อบอกถึงสถานการณ์ และความเป็นไป ไมโครบล็อกที่มีผู้นิยมใช้บริการ เช่น Twitter
3. โซเชียลเน็ตเวิร์คเว็บไซต์ (Social Network Website) คือเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสังคมออนไลน์โดยเฉพาะ เช่น Facebook, Linkedin, Myspace, Hi5 เป็นต้น เว็บพวกนี้มีจุดเด่นที่การแชร์คอนเท้นต์ ทั้งข้อความ รูปภาพ และวีดีโอ บางเว็บรวมไปถึงบทความ เพลง และลิ้งค์ นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นในการแสดงความรู้สึก หรือมีส่วนร่วม เช่น การกดไลค์ (Like) การโหวต การอภิปราย (Discuss) และการแสดงความคิดเห็น เป็นต้น
4. เว็บโซเชียลบุ๊คมาร์ค (Bookmark Social Site) เป็นเว็บที่ให้เราเก็บหน้าเว็บ หรือเว็บไซต์ที่เราชื่นชอบ เพื่อเอาไว้เข้าชมทีหลัง แต่พอมาเป็นโซเชียลไซต์ เราจะสามารถแชร์ URL ของหน้าเว็บเหล่านั้น รวมถึงดูว่าคนอื่นเก็บหน้าเว็บอะไรไว้บ้าง เข้าชม และแสดงความคิดเห็นต่อหน้าเว็บต่างๆ ได้
ซึ่งโดยส่วนใหญ่โซเชียลเน็ตเวิร์คที่มีบทบาทมากที่สุดของดิฉันและเพื่อนก็คือโซเชียเน็ตเวิร์คแบบเว็บไซต์ นั่นก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเฟสบุ๊คนั่นเอง
ซึ่งเฟสบุ๊คนี่แหละเป็นสิ่งที่คนไทยเรานิยมแชร์สิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นรูปถ่าย ความเห็นด้านต่างๆของสังคมหรือไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ต่างๆของเว็บไซต์ที่นำมาแชร์ลงในเฟสบุ้ครวมไปถึงการท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆที่ตนเองได้ไปกับครอบครัวหรือเพื่อนๆหลายคนมองว่าเฟสบุ๊คไม่มีประโยชน์แต่จริงๆแล้วเฟสบุ้คนั้นมีประโยชน์กับชีวิตประจำวันของเราและมีบทบาทกับชีวิตเรามากแต่คนมองภาพลักษณ์และใช้อย่างไม่ถูกวิธี มาพูดถึงประโยชน์ของมันสำหรับของวัยรุ่นหรือกลุ่มนักเรียนกับเลยดีกว่า เราสามารถคุยหรือติดต่อกับเพื่อนครูอาจาร์ยทางนี้ได้และสามารถส่งงานทางนี้ได้และในกรณีที่โทรศัพท์มือถือของเราไม่สามารถใช้วีดีโอคอลได้เฟสบุ้คนี่แหละช่วยให้เราติดต่อหรือโทรแบบเห็นหน้าได้โดยไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟนแพงๆเลยเพราะว่าเฟสบุ๊คได้พัฒนามาถึงขั้นนี้แล้ว ดังนั้นโซเชียลเน็ตเวิร์คจึงเข้ามามีบทบามสำคัญกับกลุ่มนักเรียนและสังคมไทยเป็นอย่างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น